วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

การเลือกใช้สีในการออกแบบ

การเลือกสีสำหรับใช้เป็น theme ของงานแต่งงาน ขอแนะนำว่าเบื้องต้นควรเลือกจากสีที่คู่บ่าวสาวชอบเป็นหลัก จากนั้นจะเลือกสีอื่นๆเข้าไปประกอบด้วยหรือไม่ก็ขึ้นกับความพอใจของทั้งคู่ ซึ่งเทรนด์ในปัจจุบันนิยมใช้สีหลัก 2-3 สี ช่วยสร้างมิติและความแตกต่างให้กับงานได้ ที่แน่ๆคือ การคุมให้งานมีเพียงสีหลัก จะช่วยสร้างความเป็นเอกภาพของงาน สร้างการรับรู้และจดจำ นอกจากนี้ในช่วงการเตรียมงานยังช่วยให้คู่บ่าวสาวสามารถตัดสินใจเลือกองค์ประกอบต่างๆได้ง่ายขึ้น เพราะทุกอย่างจะถูกกำหนดไว้ด้วยสีที่เลือกนั่นเองค่ะ
การเลือกใช้สีไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายเสมอไป เพราะสีที่เลือกใช้จะบ่งบอกได้ถึงรสนิยมของผู้เลือก หลักการพื้นฐานในการเลือกใช้สีนั้นมาจากทฤษฎีของสีนั่นเองค่ะ ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้จากภาพนี้
สีเหลือง-น้ำเงิน-แดง คือ สีขั้นปฐมภูมิ (Primary) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อของ “แม่สี”

เมื่อนำแม่สี 2 สีมาผสมกัน จะได้เป็นสีขั้นทุติยภูมิ (Secondary)
แดง+เหลือง = ส้ม
น้ำเงิน + เหลือง = เขียว
แดง + น้ำเงิน = ม่วง

ส่วนสีขั้นตติยภูมิ (Tertiary) ได้จากการนำแม่สีผสมกับสีทุติยภูมิ เช่น น้ำเงิน + ม่วง = น้ำเงิน-ม่วง เป็นต้น
จากวงจรสีข้างบน จะแบ่งสีได้เป็น 2 โทน (Tone) คือ โทนร้อน (Warm tone) และโทนเย็น (Clod tone) โดยโทนเย็นจะให้ความรู้สึกสบายและสดชื่น ได้แก่ เหลือง เขียว น้ำเงิน ม่วง ส่วนโทนร้อนจะให้ความรู้สึกอบอุ่น ร้อนแรง และสนุกสนาน ได้แก่ แดง ส้ม เหลือง ม่วง
และถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า สีเหลืองและสีม่วงอยู่ตรงกลางระหว่างโทนสีร้อนและเย็นพอดี ทั้ง 2 สีนี้จึงมีความพิเศษตรงที่ สามารถเป็นได้ทั้งสีร้อนและเย็นค่ะ
เมื่อทราบทฤษฎีของสีกันแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเลือกใช้สี โดยเราสามารถเลือกใช้เทคนิคได้หลากหลาย เช่น
1) เลือกใช้สีเดียว
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และเพื่อให้งานดูมีมิติมากขึ้น จะใช้เทคนิคนำสีหลักผสมกับสีกลาง (ขาว-เทา-น้ำตาล-ดำ) เพื่อให้เกิดความอ่อน-แก่ของสี
 
ภาพประกอบ (จากบนตามเข็มนาฬิกา) Macaron ขนมเนื้อนุ่มสีหวานที่กำลังเป็นที่นิยม : The Wish List / คุกกี้ชุดแต่งงานสำหรับเป็นของชำร่วย : Kiwi Cakes / ตกแต่งโต๊ะอาหารแบบ minimal ด้วยภาชนะกระเบื้องสีขาวขอบดำ : Martha Stewart Weddings / ช่อดอกไม้สำหรับตั้งโต๊ะ : SD Wedding Insider / จัดโต๊ะเขียนคำอวยพร โดยตั้งแจกันขนาดใหญ่ที่มีกิ่งไม้สำหรับผูก blessing card : Wedding Windows / ชุดเพื่อนเจ้าสาวสีชมพูโอโรส : Weddings on the French Riviera / เครื่องดื่มสีชมพู ประดับปากแก้วด้วยดอกไม้ : Exquisite Event Planning Blog / เสิร์ฟเค้กและไอศครีมบนจานกระเบื้องสีหวาน : Wedding Paper Divas / กล่องของชำร่วย : Wedding Color / ดอกไม้สำหรับแขวนบานประตูโบสถ์ : Brides / เค้กแต่งงานเขียนลายดอกซากุระแสนหวาน : The Wish List

2) เลือกคู่สีที่ใกล้เคียงกันเป็นสีที่อยู่ในวงจรสี 3 สีติดกัน หรืออาจจะเลยไปถึง 5 สี แต่ก็ควรมีสีหลักๆไว้ และใช้สีที่เหลือเพียงเล็กน้อย เช่น เหลือง-ส้ม-ส้มเหลือง , แดง-ม่วง-ชมพู
ภาพประกอบ (จากบนตามเข็มนาฬิกา) โรยทางเดินเข้าสู่ส่วนพิธีการด้วยกลีบกุหลาบสีเหลืองและส้ม ประดับด้วยลูกบอลกุหลาบสีส้มสดใสตามแนวทางเดิน : lavishweddingdesign / เพิ่มสีสันให้โต๊ะอาหารด้วยแจกันและดอกไม้สีเหลือง-ส้ม : hwtm daily blog / ตกแต่งสถานที่ให้ดูสดใสด้วยดอกไม้และโคมไฟกระดาษ : bayareaweddingsoup
3) เลือกคู่สีตรงข้าม
แม้ว่าหลายๆทฤษฎีจะบอกว่าการเลือกคู่สีตรงข้ามนั้นเป็นกฎต้องห้าม แต่หากเลือกใช้ให้ถูกวิธี จะทำให้ดูโดดเด่นได้มาก เทคนิคง่ายๆก็คือ ให้สีหลักมีปริมาณ 80% และสีรองมีปริมาณไม่เกิน 20% และอาจลดทอนความรุนแรงของสีด้วยการเพิ่มสีกลาง อย่างเช่น สีขาว เทา น้ำตาล ลงไป
ตัวอย่างเช่น การใช้สีแดงและเขียว ที่มีการเบรคด้วยสีขาวในปริมาณมาก และใช้สีแดงและเขียวอย่างละนิดหน่อย หรือจะผสมสีขาวลงไปในสีหลัก เพื่อให้ดูสบายตาขึ้น
 
ภาพประกอบ (จากบนตามเข็มนาฬิกา) เพิ่มสีสันให้งานเลี้ยงที่ใช้สีขาวและครีมเป็นหลักด้วยภาชนะและของตกแต่งสีแดงและเขียว : Glamourthis / ช่อดอกกุหลาบสีแดงเข้มตัดกับใบไม้ประดับสีเขียวสด เสริมลูกเล่นที่ก้านสำหรับถือด้วยริบบิ้นสีน้ำตาลปักหมุดลูกปัดสีขาวมุก : Arena Flowers/ ใช้ถังพลาสติกสานสีขาวขอบแดงใส่แอปเปิ้ลเขียววางบนโต๊ะแทนการประดับด้วยดอกไม้ ได้ความเก๋และยังทานเล่นได้ด้วย, เค้กแต่งงานสีขาวประดับเพียงเล็กน้อยด้วยดอกกุหลาบสีแดงดอกใหญ่ และคาร์เนชั่นสีเขียว :  The Knot / เลือกดอกไม้ที่มีสีตรงกันข้ามมาใช้สำหรับตกแต่งงานและโต๊ะอาหาร : Schreursfavorideas / เติมสีน้ำตาลลงไป ทำให้ได้ความรู้สึกที่อบอุ่น : designsbyhemingway / ใช้เก้าอี้สีขาวเพื่อให้โต๊ะอาหารสีแดงเข้มดูสว่างขึ้น : Weddings on the French Riviera / ลูกเล่นเล็กๆน้อยๆสำหรับเจ้าบ่าวที่สวมสูทสีเทา เนคไทนสีเขียวและดอกไม้ติดหน้าอกสีแดง : The Knot
4) เลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีคู่ตรงข้ามวิธีนี้เป็นเทคนิคการลดทอนความรุนแรงของสีคู่ตรงข้ามวิธีหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้เกิดความนุ่มนวล สบายตา และทำให้สีหลักมีความโดดเด่นมาก แม้จะใช้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
ภาพประกอบ (จากบนตามเข็มนาฬิกา) ใช้ผ้าปูโต๊ะและดอกไม้สีม่วงหลากหลายเฉด เพิ่มความสนใจด้วยดอกไม่สีเขียวในบางจุด : Soompi Forum / เค้กแต่งงานตกแต่งด้านบนด้วยชื่อย่อของคู่บ่าวสาว : Wedding Obseesion / แค่สีสดๆของดอกไม้ก็สวยพอแล้ว แค่หาแจกันเซรามิคสีขาวหรือเทามาใช้ก็พอ หรือจะเพิ่มความหรูหราด้วยแจกันโลหะก็เข้าท่า : Central Square Florist  / ชุดเพื่อนเจ้าสาวสีม่วงตัดกับช่อดอกไม้สีเขียว : The Knot / คัพเค้กส้มตกแต่งด้วยลายพวงองุ่นสุดน่ารัก : Wedding Ideas / กังหันลมกระดาษสีสดใสสำหรับตกแต่งหรือใช้แทน placecard บนโต๊ะอาหาร : The Knot / สร้างสรรค์โต๊ะอาหารสุดหรูด้วยจานกระเบื้องเนื้อดี ผ้าเช็ดปากสีเหลืองส้มรัดด้วยสายคริสตัล และเพิ่มสีสันให้งดงามด้วยกล้วยไม้สีม่วง : The Classic Invitation / จัดดอกไม้แบบง่ายๆในถ้วยกาแฟ หรือใส่ดอกเยอบีร่าลงในแก้วช็อต วางบนโต๊ะอาหารปูผ้าสีสด : Weddingwire / ภาชนะสีเขียวตองอ่อนและผ้าเช็ดปากสีม่วง ประดับด้วยกล้วยไม้สีเขียวอ่อน : Omnibride / เค้กดอกไม้สดสีม่วงและเหลืองส้ม เขียนตัวอักษรย่อชื่อคู่บ่าวสาวไว้คนละด้าน : Weddingwire
หลักการพื้นฐานในการเลือกใช้สีสำหรับงานแต่งก็ขอแนะนำไว้เท่านี้ค่ะ จริงๆแล้วยังสามารถใช้เทคนิคอื่นๆจากวงจรสีที่เห็นในรูปแรกได้อีกมาก แต่ก็ยังมีวิธีที่ไม่ต้องอาศัยวงจรสีค่ะ ซึ่งเป็นเทคนิคที่สะดวกมากๆและได้สีที่สวยโดยไม่พลาดอย่างแน่นอน จะขอแนะนำในครั้งต่อไปนะคะ ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น